ฮันโซฮี-ซงคัง-แชจงฮยอบ ถ่ายทำฉากพบกันครั้งแรกใน ‘Nevertheless’

ฮันโซฮี-ซงคัง-แชจงฮยอบ ถ่ายทำฉากพบกันครั้งแรกใน ‘Nevertheless’

ชมภาพเบื้องหลัง ฮันโซฮี-ซงคัง-แชจงฮยอบ ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อถ่ายทำฉากพบกันครั้งแรกของทั้ง 3 ในซีรีส์ “Nevertheless” หลังจากคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำของซีรีส์เรื่อง Nevertheless Ep.6 ได้ปล่อยออกมา ในคลิปแสดงให้เห็น ฮันโซฮี (Han So Hee) และแชจงฮยอบ (Chae Jong Hyeop) ที่เกสต์เฮาส์เมื่อ ซงคัง (Song Kang) ไปเยี่ยม เหล่านักแสดงได้มีการพูดคุยกับทีมงาน เพื่อสร้างซีนการพบกันครั้งแรกที่สุดแสนจะตึงเครียดระหว่างตัวละครทั้ง 3

ในขณะการถ่ายทำ ซงคัง ได้มีการเล่นกับเครื่องส่งรับวิทยุ 

ในขณะที่ฮันโซฮียังคงขี่จักรยานของเธอไปรอบๆ ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาถ่ายทำอีกครั้ง แม้พวกเขาจะมีความพยายามและตั้งใจในการถ่ายทำ แต่ทั้ง 3 คนก็ยังต้องถ่ายอยู่หลายเทค เนื่องจากบทที่ต้องมีการแตกร้าวซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้หัวเราะ แชจงฮยอบแนะนำให้มองไปที่อื่นแทน สิ่งนี้ช่วยให้ ซงคัง มีสมาธิมากขึ้น

ชมวิดีโอตัวเต็มด้านล่างพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ และรับชม “อย่างไรก็ตาม” ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 21.00 ตามเวลาไทย

คู่รัก LGBT ต่างเชื้อชาติพบรักในงานบั้งไฟพญานาค ฟันฝ่าระยะทางใจ จนบินไกลไปจดทะเบียนสมรสที่ต่างแดน ใน Couple or not? คู่ไหน… ใช่เลย ภาษาอาจจะไม่ใช่อุปสรรคสำคัญของความรัก ระยะทางก็เช่นกัน ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีทำให้ปัจจุบันเราสามารถติดต่อกันง่ายมากขึ้น การมีแฟนเป็นชาวต่างชาติจึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อคิดถึงก็สามารถโทรหากันได้ รวมไปถึงคู่รักต่างภาษา (ชายรักชาย) คุณขนม – ประกรณ์ วีระพล อายุ 31 ปี ประกอบอาชีพ ครูสอนกายกรรม และ คุณเจเรมี่ – Jeremy Stutes (ชาวสหรัฐอเมริกา) อายุ 36 ปี ประกอบอาชีพ นักแสดงอิสระ

ที่มาในรายการ Couple or not? คู่ไหน… ใช่เลย ออกอากาศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่าระยะทางที่ไกลกันแค่ไหน แต่ระยะทางใจก็ไม่เคยเหินห่าง โดย ขนม เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรักที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวว่า “เราเจอกันที่งานบั้งไฟพญานาคจังหวัดหนองคาย และเห็นเจเรมี่กำลังถ่ายรูปเล่นอยู่ คิดว่าเขาเป็นเพื่อนของเราเพราะหน้าคล้ายกันมาก เลยยิ้มให้เขาไปที แต่สุดท้ายก็รู้ว่าไม่ใช่เพื่อนของเรา

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ผ่านไป 3-4 วัน ซึ่งเรากำลังจะไปเที่ยวเวียงจันทน์และบังเอิญมาเจอกับเขาอีกครั้ง เขาตอนมาถามทางเราเพื่อจะไปเวียงจันทน์เหมือนกัน เราเลยอาสาพาเขาเที่ยวด้วยกัน ตอนแรกๆก็ไม่ได้รู้สึกชอบเขา

เพราะเรามองว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวเดี๋ยวเขาก็ต้องกลับประเทศ แต่เจเรมี่ก็สารภาพว่าชอบเรามากๆ และให้สัญญาว่าจะติดต่อหากันตลอดเวลา เมื่อเขาบินกลับต่างประเทศไป เขาก็โทรหาเราทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เวลาเดิมทุกๆตอน 9 โมง เป็นระยะเวลา 6 เดือน

ทำให้เรารู้สึกดีกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจไปเที่ยวด้วยกันที่ฮาวาย ซึ่งเขาก็พาพ่อแม่และน้องสาวมาเที่ยวครั้งนี้ด้วยมันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นมาก ระหว่างที่เราเที่ยวกับเขาดูทะเลฮาวายด้วยกัน

พอหันกลับมาเขาก็ขอเราแต่งงานเราไม่คิดไม่ฝันเลยว่า LGBT แบบเราจะมีคนมาขอแต่งงานสักครั้งในชีวิต และเราทั้งคู่ได้มีโอกาสจดทะเบียนสมรสและแต่งงานกันที่สหรัฐอเมริกา ตอนนี้เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมามากกว่า 5 ปีแล้วครับ”

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์